Funny game for your mobile

ร่างจากผลปิศาจของ 5 ผู้เฒ่าจาก Onepiece นั้นมีที่มาจากสัตว์อสูรที่ไหนบ้าง และมีเรื่องราวอย่างไร

 



        จากการเปิดเผยพลังผลปิศาจของ 5 ผู้เฒ่าสูงสุดที่เปิดตัวมาในตอนที่ 1110 แต่ละตัวล้วนมีแต่ขนาดใหญ่ๆเบิ้มๆ สมกับเป็นระดับบิ้กบอส ที่สำคัญนั้นมีการคาดการณ์กันว่าน่าจะเป็นผลปิศาจสายโซออนทั้งหมดอีกด้วย เพื่อให้สมกับเป็นระดับ                           จึงไม่แปลกอะไรที่จะออกมาด้วยหน้าตาที่แข็งแกร่ง ดูอึดสุดๆ อย่างไรก็ดี เรายังไม่รู้ว่าแต่ละคนมีความสามารถอะไร นอกจากความแกร่ง ความถึกทน ทีนี้ก็มีคนวิเคราะห์ว่ารูปร่างของผลปิศาจของทั้ง 5 นั้นมันดูคล้ายกับอสูรโบราณของญี่ปุ่นเค้า เหล่าชาวเน็ตก็เดาไปต่างๆนาๆจากภาพขาวดำว่าอาจจะเป็นตัวนั้นตัวนี้ แต่ล่าสุดได้เปิดเผยมาแล้วครับว่าแต่ละคนมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร จากภาพล่าสุดในตอนที่ 1110 มาดูกันว่าใครเป็นใครกัน 


เซนต์ เจการ์เซีย แซทเทิร์น: กิวคิ
เซนต์ มาร์คัส มาร์ : อิตซึมาเดะ
เซนต์ ท็อปแมน วอร์คิวรี่ : โฮคิ
เซนต์ อิธานบารอน V นาสึจูโร : บาโคซึ
เซนต์  เชพเพิร์ต จูปิเตอร์ : แซนด์เวิร์ม

    แอดไม่ใช่แฟนวันพีซตัวยง แต่จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้ อ.โอดะมักจะออกแบบศัตรูมาเป็นธีมคล้ายๆกัน จะสังเกตุให้ดี ชื่อของ 5 ผู้เฒ่ามาจากด่วเคราะห์ทั้งนั้นเลย ถ้าทั้ง5 เป็นดาวเคราะห์แล้ว ศูนยืกลางที่เป็นพระอาทิตย์นั้นอาจจะเป็น ลาสบอส หรือว่านิกะเองนั่นแหล่ะที่เป็นแก่นของ ทั้ง 5 ผู้เฒ่าเหล่านี้ จากข้อมูลที่ได้มานั้นดูเหมือนว่า อสูรทุกตัวจะเป็นพวกโยไคหรือมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ แล้วอสูรเหล่านี้มีประวัติอะไนแอค้นข้อมูลมาก็พบว่ามีตัวที่เหมือนและใกล้เคียงที่สุดดังนี้ 


กิวคิ(อุชิโอนิ)

Warrior God of Science and Defense, St. JayGarcia Saturn


        อุชิโอนิเป็นตำนานจากฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น เป็นสัตว์ประหลาดประเภทหนึ่งที่อาศัยอยู่ใกล้น้ำ ชื่อนี้มีความหมายตามตัวอักษรว่า “ปีศาจวัว” อุชิหมายถึงวัว ส่วน โอนิคือปิศาจ พวกมันส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายวัวตั้งแต่หัวขึ้นไป เป็นที่รู้กันว่ามีอยู่หลายรูปแบบ แต่หลักๆ แล้วจะมีหัวเป็นวัวอยู่บนตัวที่มีลักษณะเป็นเแมงมุม
อุชิโอนิเป็นอสูรที่โหดร้าย พวกมันมักจำนำพาโรคภัยไข้เจ็บมาให้แก่ชาวเมือง อุชิโอนิส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งหินและชายหาดทางตะวันตกของญี่ปุ่น จึงมีหลายเมืองในแถบนั้นที่มีตำนานเกี่ยวกับอุชิโอนิรวมถึงมีการจัดเทศกาลที่เกี่ยวกับมันขึ้นมาด้วย

พฤติกรรมการล่าของพวกมัน

    อุชิโอนิที่หากินที่ชายฝั่งทะเล หากมันล่าลำพัง เมื่อไม่มีปีศาจอื่นอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น  มันจะลอบซุ่มโจมตีเหยื่อ ด้วยความสามารถของมันคือลมหายใจที่เป็นพิษ เมื่อมันเล็งเหยื่อคนใดไว้แล้ว มันก็จะดักซุ่มและพ่นลมหายใจที่มีพิษใส่เหยื่อ แล้วจึงค่อยๆ ปรากฏตัว  กว่าที่เหยื่อจะทันรู้ตัว พิษที่สูดเข้าไปก็ได้กระจายไปทั่วร่างจนทำให้ไม่สามารถรอดพ้นจากการเป็นอาหารอันโอชะของเจ้าอุชิโอนิได้ กลายเป็นเหยื่อของมันในที่สุด



ประเพณีที่มีกันมาอย่างยาวนานของ จ.วาจิมะ


        “เทศกาลวะเรไทไซ อุวะจิมะ อุชิโอนิ” จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 22 ถึง 24 กรกฏาคมของทุกปี และถือเป็นหน่ึงในเทศกาลยิ่งใหญ่ของภูมิภาคชิโกกุ
        ในวันท่ี 22 ซ่ึงเป็นวันแรกของเทศกาลจะเริ่มต้นงานอย่างครึกครื้นด้วย “อุวะจิมะคาร์นิวาล” บริเวณคิสะอิยะโร้ด และอุชิโอนิสตรีทเพ่ือให้เหล่าวัยรุ่นได้เต้นรำและแห่อุชิโอนิที่ทำขึ้น เดินแห่ไปตามท้องถนน

    จากน้้นในวันท่ี 23 เด็กๆจะพากันแห่อุชิโอนิหรือเทพเจ้าวัว ในพาเหรด มีการ “แข่งขัน เต้น
ระบำ อุวะจิมะ
   และ “การจุดดอกไม้ไฟเหนือท้องทะเล” จากอ่าวอุวะจิ
        และสุดท้ายในวันท่ี 24จะมีขบวน“พาเหรดวัวยักษ์ตัวใหม่”ซ่ึงถือเป็นไฮไลทข์องเทศกาลในช่วงเย็นจะมีพิธีปิดท้ายเทศกาลด้วยการปะทะหรือ“ฮะชิริโคมิ”ซ่ึงจะเริ่มแห่ซุ้มไปตามแมน้ำ สุกะคะวะ ด้านหน้าศาลเจ้า  จากนั้นเหล่าวัยรุ่นจะพากันแย่งกันชิงยันต์กระดาษ “โกะเฮ” ที่ผูกไว้บนเสาไม้ไผ่ซึ่งปักอยู่กลางน้ำ ตลอดเทศกาลมีแสงไฟจากขบวนคบเพลิง การแห่ครั้งนี้วัตถุประสงค์ไม่น่าใช่การบูชาปิสาจหากแต่เป็นการขับไล่สิ่งชั่วร้าย และพิธีจัดมาเนิ่นนานจนกลายมาเป็นพิธีใหญ่ ตระกาลตาไป



อิทสึมาเดะ Itsumade

Warrior God of Environment, St. Marcus Mars

        อิสึมาเดะหรือที่เรียกว่าไคโชหรือนกประหลาด พวกมันเป็นอสูรกายที่มีหน้าเป็นคนที่มีจะงอยปากแหลม มีรูปร่างผสมของสารพัดสัตว์ร่างเป็นงูมีปีกเหมือนนกแต่มีกรงเล็บที่น่ากลัว ปีกของมันยาวกว่า 4.8 เมตร
พฤติกรรมของพวกมัน

        อิสึมาเดะจะปรากฏตัวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนในช่วงเวลาที่เลวร้ายเช่น สถานที่ที่มีภัยพิบัติ อิสึมาเดะมันจะบินเหนือสมรภูมิที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก หรือที่ที่มีการทำสงคราม ผู้คนจะเห็นพวกมันได้จากสถานที่ซึ่งมีความทุกข์ทรมานหรือความตาย พวกมันเหมือนสัญลักษณ์แห่งภัยพิบัติ วิญญานของผู้ตายจะได้รับการบรรเทา แต่ว่ากันว่าวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานนั้นก็ให้เกิดร่างของพวกมันขึ้นมา และนกประหลาดนี้จะบินวนเป็นวงกลมตลอดทั้งคืนและส่งเสียงร้องที่น่ากลัวโหยหวน

        ตำนานของพวกมันว่ากันว่า คืนหนึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 1334 จู่ๆ อิสึมาเดะก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือห้องโถงสำหรับทำพิธีของเมือง มันร้องตะโกนว่า “อิสึมาเดโมะเหรอ? อิสึมาเดโมะ?” ที่หมายความว่า “จนถึงเมื่อไร” ผู้คนในเมืองหลวงเกิดตื่นตระหนก ต่อมาอีกคืน เจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้ก็กลับมาอีกในคืนถัดไป และเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องกันหลายต่อหลายคืน   ในที่สุดราชสำนักก็ตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง พวกเขานึกถึงชัยชนะของมินาโมโตะ โนะ โยริมาสะที่เพิ่งปราบอสูรนิวได้เมื่อหลายปีก่อน และตัดสินใจอัญเชิญนักรบโอกิ โนะ จิโรซาเอมอน ฮิโรอาริ มาปราบมัน ฮิโรอาริเป็นนักธนูที่เชี่ยวชาญ เขาใช้ลูกศรส่งสัญญาณที่ส่งเสียงนกหวีดดังขณะที่มันบิน และยิงสัตว์ประหลาดไล่มัน หลังจากนั้น ฮิโรอาริก็ได้รับชื่อใหม่ว่า มายูมิ ซึ่งแปลว่าธนูที่แท้จริง

    มายูมิ ฮิโรอาริกลายเป็นนักรบผู้โด่งดัง และทำให้สถานที่ที่ มายูมิอาศัยอยู่ได้รับชื่อเสียง หลุมฝังศพของ มายูมินั้นอยู่ที่ เมืองมิยามะ จังหวัดฟุกุโอกะ  ภายหลังพื้นที่นี้ถูกเปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาหลังจากที่เขาเสียชีวิต






Fengxi - Warrior God of Justice, St. Topman Warcury

                                      เทพหมูป่า(BAKU)

        ตามชื่อที่เปิดเผยออกมารูปร่างหน้าตาของผู้เฒ่ามีความคล้ายกับ อสูรหมูป่า ในตำนานของญี่ปุ่นนั้นมีอสูรหมูป่าตนหนึ่งมันมีชื่อว่า BAKU บากูนั้นมีข้อมูลไม่มากนัก สัตว์ตัวนี้ไม่ใช่ปิศาจร้ายแถมเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อีกต่างหาก รูปร่างหน้าตาที่แปลกประหลาดที่เกิดจากการผสมของสารพัดสัตว์  ร่างกายเป็นหมี หัวเป็นช้าง ดวงตาเป็นแรด หางเป็นวัว และขาเป็นเสือ แม้จะมีรูปลักษณ์ที่ชั่วร้าย แต่บากูก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นพลังแห่งความดีและเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์อันศักดิ์สิทธิ์ของมวลมนุษยชาติ มีฉายาว่าเป็น Dream eater  หรือผู้กินความฝัน
        บากูจัดได้ว่าเป็นผู้พิทักษ์เลยก็ว่าได้ บากุคอยดูแลมนุษย์และทำหน้าที่เป็นวิญญาณผู้พิทักษ์ บาคุกินความฝันของมนุษย์ โดยเฉพาะฝันร้าย วิญญาณชั่วร้ายและโยไคกลัวบากูและหนีออกจากพื้นที่ที่มีคนอาศัยในบากู บากุนำพาโชคและยังนำพาสิ่งดีดีทำให้ขจัดโรคภัยได้อีกด้วย

        ถึงหน้าตาจะดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย แต่เป็นถึงผู้พิทักษ์เลยทีเดียว จากในเกมโซล NiOH Baku นั้นเป็นถึง Guardian Spirit คอยช่วยเหลือตัวเอกกำจัดปิศาจร้ายที่เป็นศัตรูกับเหล่ามนุษย์ ในส่วนของวันพีซคาดว่าอาจจะมีการใช้ความสามารถพิเศษบวกกับรูปร่างหน้าตาของบาคุเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับกลุ่มหมวกฟางก็เป็นได้



                                         INoSaSao

    ยังมีอีกอสูรหมูป่าของญี่ปุ่น มันมีชื่อว่า อิโนซาซาโอะ หรือหมูป่าโบราณที่กล่าวกันว่าได้รับพลังเหนือธรรมชาติ อ่านออกเสียงไปพ้องกับ อิโนสุเกะ ชื่อคุ้นๆนะ เจ้าหมูป่านี้บางทีอาจเป็นต้นแบบของ อิฌนะสุเกะในเรื่องดาบพิฆาตอสูรก็เป็นได้ อิโนซาซาโอะมีต้นไผ่เล็กๆบนหลังของมัน มีอายุยืน ซึ่งจะนับได้จากไผ่บนหลังของมันนั่นเอง
        ตั้งแต่สมัยโจมง หมูป่าได้รับการเคารพบูชาในฐานะสัญลักษณ์ของการคลอดบุตรและการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากสามารถให้กำเนิดลูกหลานได้มากมาย คนอื่นๆบูชามันในฐานะสัญลักษณ์ของพลังแห่งธรรมชาติ ความแข็งแกร่งอันดุร้ายของมัน และงาที่แหลมคม เพื่อเตือนใจพวกเขาว่าธรรมชาตินั้นโหดร้ายได้อย่างไร แม้ว่าการบูชาหมูป่าจะพบได้น้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ตำนานหลายเรื่องเกี่ยวกับหมูป่าที่ได้ช่วยเหลือมนุษย์ยังคงอยู่

HOKI(หมูป่าอสูรจากตำนานพื้นบ้านของจีน)


        Fengxi หรือ Hoki ในภาษาญี่ปุ่นเป็นหมูป่าปีศาจจากเรื่องราวในตำนานเทพปกรณัมจีน ว่ากันว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ ทำลายร้างหมู่บ้านพินาศสิ้น  ด้วยงาอันใหญ่โตของมัน และลำตัวที่รุกไหม้เต็มไปด้วยไฟบนหลัง แม้ว่า เซนต์ Warcury ยังไม่ได้แสดงความสามารถออกมาให้เราได้เห็น แต่ด้วยรูปลักษณ์ของหมูป่าที่มีไฟบนหลัง กับท่าทางบ้าพลังแล้ว เกาะEgghead น่าจะไหม้เป็นจุลด้วยพลังของผู้เฒ่า Warcury



Bakotsu - Warrior God of Finance

(St. Ethanbaron V. Nusjuro)


        อสูรกึ่งม้ากึ่งคนถือดาบซามูไรไม่มีประวัติในบันทึกอสูรญี่ปุ่น โดยอสูรของญี่ปุ่นมีที่เป็นม้านั้นก็คือ Sagari  
        Sagari ว่ากันว่าเกิดจากวิญญาณที่ไม่มีความสุขของม้าที่ตายแล้วซึ่งถูกทิ้งไว้ข้างถนน เนื่องจากดวงวิญญาณของพวกเขาลุกขึ้นสู่ชีวิตหลังความตายบางครั้งพวกเขาก็ติดอยู่กับต้นไม้ใกล้เคียง - วิญญาณใด ๆ ที่ติดอยู่ในลักษณะนี้ก็จะ กลายเป็นซาการิ เสียงของมันทำให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นหวาดกลัว ด้วยเสียงครวญคราง ผู้คนที่ได้พบมันเข้าอาจเจ็บป่วย
    แต่จากท่าทางฟันดาบเท่ๆแบบซามูไรน่าจะเป็นส่วนผสมที่ อ.โอดะมักชอบนำมาใส่ เพื่อให้สอดคล้องกับดาบที่ผู้เฒ่าถืออยู่ และดูท่าทางจะมีแนวโน้มดวลดาบกับนักดาบด้วยกันอย่างโซโล


        ดูจากข้อมูลโดยรวมแล้ว 5 ผู้เฒ่าอาจมาจากอสุรจากหลากหลายประเทศก็เป็นไปได้ โดยเฉพาะ เซนต์ อิธานบารอน V นาสึจูโร ที่มาด้วยมาดซามูไร เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในเผ่ามังกรสวรรค์อันดับสูงสุด แฟนๆ จึงคาดเดากันว่าผู้เฒ่าคนนี้เป็นเจ้าของดาบที่หายากที่สุดชิ้นหนึ่งของโลกและมีทักษะในการใช้ในระดับสูงจากสีของฮาคิในดาบที่ฟันแปซิฟิสต้าจอดในดาบเดียว  Bakotsu ซึ่งแปลจากภาษาญี่ปุ่นหมายความว่า  Skeleton Horse หรือม้ากระดูก

   เซนต์ นาสึจูโร ปรากฏตัวเป็นม้าโครงกระดูกผีดิบ เป็นลูกผสมระหว่างซามูไรและเซนทอร์ 
บาคตสึเป็นโยไคที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก มีลักษณะเป็นโครงกระดูกม้าที่ถูกไฟไหม้ซึ่งมากับความตาย ดูเหมือนว่า St. Nusjuro จะมีพลังจากน้ำแข็ง ในท่าทางตวัดดาบซึ่งอาจทำลายร่างกายจากภายใน อาจเป็นไปได้ว่า อ.Oda จะออกแบบม้าผีดิบนี้ตาม Skeleton Horse  หนึ่งในสี่พลม้าของวันสิ้นโลก ซึ่งรูปร่างหน้าตาของเขาบ่งบอกถึงการมาถึงของความตาย และมีความสามารถในการใช้ความเย็นจากยมโลกเพื่อทำให้คู่ต่อสู้เย็นไปจนถึงกระดูก


Sandworm - Warrior God of Agriculture

, St. Shepherd Ju Peter



        เทพนักรบแห่งเกษตรกรรม ดีไซน์หน้าตาไม่ใช่มาจากเอเชียแน่นอน ด้วยผมสีบลอนด์และชุดสูทสีน้ำตาลแดง เป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจที่โหดร้าย โดยเฉพาะการกระทำอันบ้าคลั่งของเขาที่จะทำลายหมู่บ้านของโรบิน กลุ่มหมวกฟาง  ที่เต็มไปด้วยนักวิชาการ โอฮาร่า หลังจากมาถึงเกาะ Egghead แล้ว เซนต์ปีเตอร์ก็เป็นหนึ่งในกองกำลังเสริมกลุ่มแรกที่พยายามโจมตี ลูฟี่ในฐานะหนอนทรายตัวใหญ่เบิ้ม คาดการณ์กันครับว่าเจ้าหนอนตัวนี้น่าจะเป็นสัตว์ในตำนานที่มีกำเนิดจากเรื่องราวของมองโกเลีย


        นักบุญเชพเพิร์ด และร่างหนอนทรายของเขา อาจมีที่มาจากสัตว์ปิศาจมุดดินในผืนทรายที่แห้งแล้งจากภาพยนตร์ Dune ของเดนิส วิลล์เนิฟ  หรืออาจได้รับอิทธิพลจากหนังที่มีหนอนเป็น Monster หลายต่อหลายเรื่อง และเจ้าหนอนทรายเซนต์ปีเตอร์มีสามารถขุดดินด้วยความเร็วสูง เช่นเดียวกับกิวคิของ Saint Saturn  ส่วนความสามารถอื่นยังไม่ได้เปิดเผย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้