ข้อคิดจากนิทานเรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนมากๆ เลย ลองอ่านกันดูนะคะว่านิทานเรื่อง Hanasakajiisan หรือชายแก่ผู้ทำให้ซากุระบานนี้ จะให้แง่คิดอะไร
นิทานเรื่องนี้มีอยู่ว่า…
นานมาแล้ว… ในหมู่บ้านห่างไกลท่ามกลางหุบเขาแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีคุณตาคุณยายคู่หนึ่งอาศัยอยู่กันตามลำพัง
วันหนึ่งระหว่างที่คุณตาออกไปทำนา… เจ้าหมาน้อยสีขาวตัวหนึ่งก็เดินร้องไห้ ท่าทางไม่ค่อยดีเข้าไปหา เจ้าหมาน้อยเพิ่งถูกชายแก่นิสัยไม่ดีซึ่งอยู่นาข้างๆ รังแกมานั่นเอง คุณตาร้องว่า “โธ่เอ๋ย… เจ้าหมาน้อยที่น่าสงสาร” เย็นวันนั้นคุณตาก็พาเจ้าหมาน้อยกลับไปบ้านด้วย แล้วคุณตากับคุณยายก็ตั้งชื่อเจ้าหมาน้อยนี้ว่าชิโระ (Shiro ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าสีขาว)
คุณตาคุณยายรักเจ้าชิโระมาก ซึ่งมันก็น่ารัก คอยช่วยเหลือคุณตาคุณยายทำงานอยู่เสมอ ชิโระกิน.. แล้วก็กิน.. จนเติบโตเป็นหมาใหญ่อย่างรวดเร็ว
วันหนึ่งเจ้าชิโระพาคุณตาขึ้นไปภูเขาซึ่งอยู่ใกล้ๆ พอไปถึงยอดเขา มันก็เห่าเรียกให้คุณตาขุดดิน พอคุณตาขุดบริเวณที่เจ้าชิโระบอก ทันใดนั้นก็มีเหรียญทองจำนวนมากมายพวยพุ่งออกมาจากดิน ราวกับน้ำพุ..
พอชายแก่นิสัยแย่คนที่เคยทำร้ายเจ้าชิโระรู้เรื่องเข้า เขากับเมียก็บอกคุณตาว่า “ไหน.. ยืมเจ้าชิโระนี่หน่อยสิ” แล้วพวกเขาก็ทั้งลากทั้งจูงเจ้าชิโระขึ้นไปบนภูเขา “ไหน.. ไหน.. ทองอยู่ไหน เจ้าชิโระ!” ด้วยความกลัว.. เจ้าชิโระจึงได้แต่ร้องครางอิ๋ง… อิ๋ง… ชายแก่นิสัยแย่ก็ร้องว่า “อ่อ! งั้นก็อยู่ตรงนี้นี่เองใช่มั้ย” พูดจบเขาก็เริ่มขุดดิน แต่… แทนที่จะมีทองคำพวยพุ่งออกมาจากดินเหมือนกับที่คุณตาใจดีเจอ ทันใดนั้นก็มีแต่ขยะเน่าเหม็นพวยพุ่งออกมา… ชายแก่นิสัยแย่ มองเป๋งไปที่เจ้าชิโระ พร้อมกับตะโกนว่า “แก… กล้าดียังไงที่ทำอย่างนี้!” ด้วยความโกรธ.. ชายแก่นิสัยแย่กับเมียของเขาก็รุมทำร้ายเจ้าชิโระจนตาย T_T
พอคุณตาคุณยายใจดีรู้เรื่อง ก็เศร้าเสียใจมาก พวกเขาตัดสินใจสร้างสุสานให้กับเจ้าชิโระ หลังจากที่พวกเขาฝังศพเจ้าชิโระได้ไม่นาน ก็มีต้นไม้ประหลาดต้นหนึ่งงอกและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่บริเวณสุสานของ เจ้าชิโระ เพียงวันเดียวเจ้าต้นไม้ประหลาดนั้นก็สูงใหญ่อย่างกับหอคอย
คุณตาจำได้ว่า “เจ้าชิโระชอบกินขนมโมจินี่นา…” จากนั้นก็บอกคุณยายว่า “งั้นมาทำขนมโมจิ แล้วเอาไปให้เจ้าชิโระที่สุสานกันดีกว่า” คุณตาจึงตัดต้นไม้ใหญ่ประหลาด แล้วนำมาทำเป็นครกเพื่อตำแป้งโมจิ ทันทีที่คุณตาเริ่มตำ แป้งโมจิในครกก็กลายเป็นเหรียญทอง!!!
อีกครั้ง… ชายแก่นิสัยแย่กับเมียเห็นเข้า “เอาครกมานี่!” พวกเขาขโมยครกไปต่อหน้าต่อตาคุณตาคุณยายใจดี แล้วนำกลับไปที่บ้าน แต่พอพวกเขานำแป้งโมจิใส่ครก แล้วเริ่มตำแป้ง.. ก็กลายเป็นสีดำไปทันตา “มันอะไรกันเนี่ย?!?” ชายแก่นิสัยแย่กับเมียต่างงงงัน ด้วยความโกรธชายแก่เอาขวานมาสับๆๆๆๆ จนกระทั่งครกแตกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนที่จะโยนเศษครกเหล่านั้นเข้าไปในเตาไฟ คุณตาใจดีเสียใจมาก เขาค่อยๆ เก็บขี้เถ้าของครกไม้นั้นขึ้นมาจากเตา แล้วใส่ไว้ในกล่อง และนำกลับบ้านไปด้วยความรู้สึกราวกับใจสลาย
คุณตาคุณยายคิดว่า “เจ้าชิโระชอบกินหัวผักกาด โรยขี้เถ้าเหล่านี้ในแปลงผักกันดีกว่า หัวผักจะได้โตเร็วๆ เจ้าชิโระต้องชอบแน่ๆ เลย” คุณตาจึงเริ่มโรยขี้เถ้าไปทั่วแปลงผัก แล้วลมก็พัดพาขี้เถ้าส่วนหนึ่งไปยังต้นไม้ประหลาดที่ตายแล้วหลังจากที่คุณตา ตัดมันไปทำครกโมจิ แต่ทันใดนั้น!! ต้นไม้นั้นก็เริ่มออกดอกเป็นซากุระบานบานสะพรั่งไปทั้งต้น คุณตาใจดีเห็นอย่างนั้นก็ลองนำขี้เถ้าไปโรยที่ต้นไม้ที่ยืนต้นตายอีกต้นซึ่ง อยู่ไม่ไกลกันนั้น และมัน.. ก็ออกดอกบานสะพรั่ง เป็นดอกซากุระเช่นเดียวกัน
ข่าวความน่าอัศจรรย์ใจนี้ แพร่กระจายไปทั่วเมือง ไม่นานพระราชาก็ได้ทราบเรื่องนี้ จึงทรงตรัสให้คนมานำคุณตาไปเข้าเฝ้าฯ คุณตานำกล่องใส่ขี้เถ้าไม้ไปด้วย เมื่อไปถึง.. คุณตาก็โปรยขี้เถ้าไปยังต้นไม้ใกล้ๆ และทันใดนั้น ต้นไม้ก็ออกดอกเป็นซากุระสีขาวสวยงามเต็มต้น พระราชาชื่นชอบมากและทรงตรัสว่า “เจ้าเป็นผู้ที่ทำให้ดอกไม้บานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในญี่ปุ่น…ข้าจะให้รางวัลเจ้า!”
แล้วจู่ๆ ชายแก่นิสัยแย่ก็วิ่งเข้ามา พร้อมกับกล่องใส่ขี้เถ้าที่ได้มาจากเตาที่เผาครกไม้เช่นกัน “ช้าก่อนฝ่าบาท หม่อมฉันต่างหากที่เป็นผู้ที่ทำให้ดอกไม้บานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในญี่ปุ่น!” ชายแก่นิสัยแย่เริ่มโรยขี้เถ้าทันที แต่แล้ว… แทนที่จะทำให้ดอกไม้เบ่งบาน ขี้เถ้าเหล่านั้นกลับลอยเข้าพระเนตร พระกรรณ ของพระราชาอย่างเต็มที่ จนพระองค์สำลัก “เจ้า! ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง” จากนั้นพระราชาก็ตรัสให้ทำชายแก่นิสัยแย่ไปคุมขังในคุกทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น