“อูลูรู” (Uluru) หินสีแดงเพลิงขนาดใหญ่กลางทะเลทรายทางตอนกลางของออสเตรเลีย หรือเรียกอีกอย่างได้ว่า"หินแอร์ส"(Ayers Rock) อุลูรูคือโขดหิน ที่ตั้งอยู่ในตอนกลางของประเทศออสเตรเลีย เป็นโขดหินขนาดใหญ่ที่โผล่จากพื้นดินโดดๆ มองเห็นได้ชัดเจนเพราะทั้งบริเวณเป็นที่ราบ โขดหินมีความสูง 348 เมตร เส้นรอบวงที่ฐานวัดได้ 9 กิโลเมตร แต่ว่ากันว่าภาพที่เห็นคือส่วนยอดของโขดหินเท่านั้น เพราะยังมีส่วนที่จมลึกลงไปใต้ดินอีกกว่า 2 กิโลเมตร และเชื่อกันว่าก้อนหินยักษ์นี้เคยจมอยู่ใต้ทะเลมาก่อน ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโขดหินที่ใหญ่ทีสุดในโลก
ลักษณะเป็นหินทรายสีแดงเป็นหินอาร์โคส มีแร่ฟันม้าเป็นส่วนประกอบ ลักษณะที่แปลกและโดดเด่นของโขดหินคือ สีสันของหินนี้มีเปลี่ยนแปลงตามเวลาซึ่งในแต่ละช่วงมีสีแตกต่างกัน ใครที่เดินทางผ่านมาจะต้องทึ่งและร้องว้าว เมื่อเห็นก้อนหินที่มีทรงเกลี้ยงๆ โล่งๆ กลับเปลี่ยนสีขึ้นมาพลัน ในตอนกลางวันแสงอาทิตย์เจิดจ้าทำให้มันมีแดง แต่พอตกเย็นสีสันจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง อูลูรูจึงเป็นสถานที่ๆไม่ว่าจะเป็นช่วงอาทิตย์ขึ้นหรือตก "สีสันของหินก็มีชีวิตชีวา" และที่นี่ยังมีเรื่องเล่าเก่าแก่ของชาวอะบอริจินอีกด้วย
ตำนานความเชื่อของชาวอะบอริจิน
ตำนานของชาวอะบอริจินกล่าวไว้ว่าโขดหินอุรูลูเป็นภูมิประเทศเส้นทางแห่งความฝัน บรรพบุรุษสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยจูคูร์ปา หรือ ยุคแห่งช่วงฝัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนแปลงพื้นพิภพโลก โลกกำลังก่อตัวเป็นรูปร่าง ในยุคนั้นบริเวณแถบโขดหินอุลูรูมีสัตว์อสูร ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ปกครองอยู่ นั่นคือเผ่ามนุษย์ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้ จะเรียกพวกนี้ว่า Kangaroo พวกมันมีหูยาวเหมือนกระต่าย แต่มีรูปร่างล่ำสันแข็งแรงเหมือนจิงโจ้ ยืนสองขาเหมือนมนุษย์ และมนุษย์งูคาร์เป็ต Python เป็นกลุ่มครึ่งงูหลามที่ยืน 2 ขาได้เหมือนมนุษย์เช่นกันแต่มีเกล็ดเป็นเงาสีน้ำตาลเหมือนงูหลาม
ครั้งหนึ่งพวก Python ถูกพวก มนุษย์งูพิษ หรือ Snake รุกราน ซึ่งพวกมนุษย์ Snake เป็นศัตรูจากแดนใต้ และเป็นอสุรกายครึ่งคน ครึ่งงูที่มีพิษเป็นอาวุธ Python มีพวก Kangaroo เป็นพันธมิตร เมื่อPython ถูกรุกรานก็ได้ส่งคนมาช่วยเหลือ ครั้งนึงเผ่า Kangaroo นั้นได้เคยถูกพวก Snake รุกรานมาก่อน โดยพวกมันปล่อยหมาป่าดิงโก้ออกมากัด แต่ยังรอดมาได้ เพราะพวกจิงโจ้ มีความสามารถพิเศษมีขาที่กระโดดได้ไกล และรวดเร็ว ครั้งนี้พวกจิงโจ้กลับมาล้างแค้น พวกจิงโจ้ล่อลวงพวกงูให้มารวมตัวกันและเข้าโอบล้อม และแล้วหัวหน้าเผ่า Kangaroo เจ้าแม่บูลาริ ก็ทำการใช้มนต์เป่าพิษร้ายแห่งความตายและเชื้อโรคเข้าใส่พวกงู พวกงูทั้งหลายโดนคำสาปจนร่างแข็งเป็นก้อนหินกลายเป็นก้อนหินขนาดใหญ่
และปัจจุบันนี้ชาวอะบอริจินเชื่อว่าร่างของมนุษย์ครึ่งงูพิษถูกสาปให้กลายเป็นโขดหินอุลูรู และรอยน้ำไหลที่ด้านหนึ่งของหินเป็นรอยเลือด ส่วนรอยเท้า Kangaroo นั้นเหลือทิ้งไว้เป็นร่องรอย ครั้นเหตุการณ์หนีศัตรู จนมันได้กลายเป็นถ้ำทั้งหลายที่ฐานโขดหิน
เมื่อก่อนนี้นักท่องเที่ยวสามารถปีนขึ้นไปสำรวจความยิ่งใหญ่ของภูเขาหินได้ แต่ด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยที่ยากต่อการควบคุม รวมถึงเหตุผลสำคัญด้านความเชื่อที่ว่าภูเขาลูกนี้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพของชาวชนพื้นเมืองเผ่าอานางู (Anangu) มีการร้องเรียนต่อรัฐมาโดยตลอดว่าการปล่อยให้นักท่องเที่ยวปีนขึ้นเขาเป็นการไม่เคารพต่อธรรมเนียมชาวท้องถิ่น ทำให้ในเดือนตุลาคม 2019 อุทยานแห่งชาติอูลูรู–คาตา ทจูทา (Uluru-Kata Tjuta National Park) เลยตัดสินใจประกาศห้ามการปีนขึ้นเขาอูลูรูเป็นการถาวรนับแต่นั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ภูเขาหินสุดอัศจรรย์แห่งนี้ ยังเป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวปีละนับแสนราย โดยช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบที่สุดก็คือ ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกนั่นเอง ส่วนใครไม่ชอบคนเยอะหรือความวุ่นวาย การเลือกมาในเวลากลางวันก็สามารถทำได้ แต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะตินกลางวันแดดแรงๆ อากาศร้อนถึง 40 องศา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น