Funny game for your mobile

นิทานผ้าคลุมนางฟ้า ฮาโกโรโมะ ชมป่าสนอันงดงาม มิโฮะโนะมัตสึบาระ

        ตำนานนางฟ้า หรือนางอัปสรสวรรค์ของญี่ปุ่น เรื่องนี้เป็นหนึ่งในนิทานที่มีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่น อีกทั้งเรื่องนี้ยังมีเรื่องราวเกี่ยวโยงกับป่าสนที่มีอยู่จริง ซึ่งสถานที่นี้เป็นจุดชมวิว ชมภูเขาไฟฟูจิอันงดงามของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยป่าสนนี้ตั้งอยู่ในเมืองชิมิซึ จ.ชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น มารับฟังเรื่องราวเทพธิดาของญี่ปุ่นกัน


 

ผ้าคลุมนางฟ้า ฮาโกโรโมะ

(Hagoromo, 羽衣)

กาลครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งชื่อ ฮาคุเรียว (บ้างก็ว่าชื่อ ฮาอิรุโค) เขามีอาชีพเป็นชาวประมง จึงอาศัยอยู่ใกล้ๆ บริเวณชายหาด…

วันหนึ่งกลางฤดูใบไม้ผลิ ฮาคุเรียว ก็ออกไปหาปลาแต่เช้าตรู่เช่นทุกวัน แต่วันนั้นสายลมพัดค่อนข้างแรง เมื่อเขาไปถึงชายหาด เขาได้กลิ่นหอมกรุ่นมาจากทิศทางใดไม่ทราบได้ เขาจึงพยายามมองหาแหล่งที่มาของกลิ่นหอมจรุงนั้น ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นแสงเป็นประกายระยิบระยับอยู่บนกิ่งสนต้นหนึ่งริมหาดนั่นเอง ฮาคุเรียวจึงปีนขึ้นไปดู และพบว่ามันคือผ้าผืนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะบางเบา นิ่มนวลละมุนมือ เป็นประกายสวยงามเมื่อต้องแสงแดด ยามลมพัดมาถูกเนื้อผ้าก็จะเปลี่ยนสีไป แดงบ้าง ชมพูบ้าง นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมอย่างที่เขากำลังมองหาที่มาอยู่

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ฮาคุเรียวจึงคิดว่ามันต้องเป็นผ้าของนางฟ้า (Hagoromo, 羽衣) อย่างแน่นอน แล้วในระหว่างทางที่เขากำลังจะกลับบ้านนั้น เขาก็ได้ยินเสียงหญิงสาวร้องไห้ พอหันไปดูก็ปรากฏว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนทำหน้าตาเศร้าสร้อยอยู่

เธอกล่าวว่า “ผ้าผืนนั้นเป็นของฉัน โปรดคืนให้ฉันเถอะ…”
ฮาคุเรียวตอบ “ได้อย่างไร ข้าเป็นคนเก็บได้นะ”

มันไม่ใช่ของมนุษย์ เป็นของนางฟ้า ฉันเพียงแต่วางไว้บนต้นสน ขณะที่ฉันชมความงามของทิวทัศน์ โปรดคืนให้ฉันเถอะ”

แต่ฮาคุเรียวไม่ยอม เขากล่าวว่า “ถ้าเป็นของนางฟ้าก็ดีน่ะสิ ข้าจะได้เก็บมันไว้เป็นสมบัติประจำบ้านข้าซะเลย”

“ได้โปรดคืนให้ฉันเถอะนะ ถ้าขาดผ้าคลุมนี้ไปฉันก็เหมือนนกไร้ปีก คงต้องเจ็บปวดทรมานเพราะไม่สามารถบินสู่ท้องฟ้าได้ โปรดเมตตาฉันเถิด ฉันเป็นนางฟ้า ต้องอยู่บนสวรรค์ จะให้มาอยู่บนโลกมนุษย์ได้อย่างไร ฉันต้องตายแน่ๆ เลย”  



ฮาคุเรียวเห็นดังนั้น ก็เกิดเห็นใจ และพูดว่า “ก็ได้ ข้าจะคืนให้”
นางฟ้าได้ยิน ก็รู้สึกดีใจ “ขอบคุณมาก ทีนี้ฉันก็จะได้กลับสวรรค์แล้ว”
“แต่… เจ้าต้องฟ้อนรำให้ฉันดูก่อน” ฮาคุเรียวบอก
“ได้สิ แต่ฉันต้องใช้ผ้าผืนนั้นนะ ไม่อย่างนั้นฉันก็ฟ้อนไม่ได้”
“เรื่องอะไรเล่า เจ้าจะได้เหาะกลับสวรรค์ ไม่ยอมฟ้อนให้ข้าดูแน่ๆ” ฮาคุเรียวตอบ
นางฟ้าจึงกล่าวว่า… “ความไม่เชื่อใจกัน มีแต่ในโลกมนุษย์เท่านั้น โลกของเทพไม่มีการหลอกลวงกันเด็ดขาด”

        ฮาคุเรียวได้ยินดังนั้นก็เกิดความละอาย จึงคืนผ้าให้กับนางฟ้า
พอนางฟ้าได้ผ้าคลุม นางก็เริ่มร่ายรำอย่างอ่อนช้อยงดงามเพื่อให้ฮาคุเรียวดู ร่ายรำไปเรื่อยๆ ค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ จนหายลิบขึ้นไปบนท้องฟ้าในที่สุด ราวกับยอดเขาที่ค่อยๆ ถูกเมฆหมอกกลืนหายไปอย่างช้าๆ

            ป่าสนมิโฮะโนะมัตสึบาระ เมืองชิมิซึ จ.ชิซึโอกะ                                                        (Mihonomatubara)

       แม้เนื้อเรื่องจะจบแบบค้างคาใจคนฟัง เหมือนว่าจะมีเรื่องราวต่อจากนั้น บางตำนานก็ว่า นางฟ้าอยู่กินกับสามี โดยไม่ทราบว่าสามีนั่นแหล่ะที่เป็นคนเก็บผ้าเอาไว้ จนกระทั่งสามียอมบอก พอนางได้ผ้าคลุมคืนก็โบยบินกลับสวรรค์ไปในที่สุด 

        เรื่องผ้าคลุมนางฟ้านี้มีเค้าโครงความเชื่อว่าบนสวรรค์นั้นจะมีเทพธิดา ทำหน้าที่ระบำรำฟ้อนในงานเฉลิมฉลอง ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าเทนนิน (Tennin, 天人) หรือนางอัปสรสวรรค์ (เทพธิดาที่มีหน้าที่ฟ้อนรำบนสวรรค์) ซึ่งจะต้องมีผ้าคลุมนางฟ้าเป็นของติดกายอยู่เสมอ มิฉะนั้นจะไม่สามารถบินกลับสรวงสวรรค์ได้ และนอกจากผ้าคลุมนางฟ้าแล้ว เหล่าเทนนินก็มักจะมีเครื่องดนตรีญี่ปุ่นติดตัวอยู่ด้วย อาทิ พิณญี่ปุ่น (Shamisen) หรือไม่ก็ขลุ่ย

        เรื่องราวเกี่ยวกับผ้าคลุมนางฟ้าของ Tennin นี้ เชื่อว่าได้รับอิทธิมาจากตำนานเกี่ยวกับนางฟ้าของจีน นิยมนำมาเล่นในละครโน (Noh) ของญี่ปุ่น โดยใช้ชื่อว่า Hagoromo ที่แปลตรงๆ ตัวว่าเสื้อคลุมขนนก ซึ่งก็หมายถึงผ้าคลุมนางฟ้านั่นเอง 

        เรื่องราวของตำนานผ้าคลุมนางฟ้า ฮาโกโรโม ยังมีสถานที่ถ่ายรูปอันสวยงามอยู่ในป่าสนที่มีชื่อว่า ฮาโกโรโมะ โนะ มัตสึ อยู่ในพื้นที่ของ มิโฮะโนะมัตสึบาระ อันเป็นป่าสนขนาดใหญ่จำนวนกว่าสามหมื่นต้นที่อยู่บริเวณแนวชายหาดเป็นความยาวกว่า 7 กิโลเมตร และเป็นป่าสนที่ว่ากันว่าอยู่ในตำนานเรื่องผ้าคลุมนางฟ้า ในบริเวณนั้นมีต้นสนที่ชื่อว่า “ฮาโกโรโมะ โนะ มัตสึ” ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี และเล่าขานกันว่าเป็นต้นสนที่ผ้าคลุมนางฟ้ามาติดอยู่นั่นเอง 

        หากไปที่นั่น อย่าลืมแวะที่ “คามิโนะมิจิ” (เส้นทางแห่งพระเจ้า) แนวของต้นสนอายุกว่า 200 ปี เรียงรายเป็นระยะทาง 500 เมตร จากศาลเจ้ามิโฮะไปจนถึงมิโฮะโนะมัตสึบาระ ศาลเจ้ามิโฮะเป็นที่ประทับของเทพเจ้าแห่งความสุขจากการแต่งงาน ด้วยบรรยากาศสายลมจากท้องทะเลอันแสนสดชื่นและกลิ่นหอมของป่ารอบๆ การเดินเล่นในบริเวณนี้ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกดีดี บวกกับแสงไฟในยามค่ำคืนก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศอันร่มรื่นของที่นี่ได้เป็นอย่างดีเลย

      ทุกเดือนตุลาคมมีการจัดแสดง “มิโฮะฮาโงโรโมะทาคิกิโนะ” Mihohayoromo takigino (การแสดงละครโนห์ของมิโฮะฮาโงโรโมะ) กลางแจ้งใกล้กับกองไฟ มีการแสดงบนเวทีละคร Noh ที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นที่มิโฮะ ต้นกำเนิดของตำนานฮาโงโรโมะ โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิ อ่าวซุรุงะ และอิซุ ท่ามกลางท้องฟ้าในยามโพล้เพล้ เสียงคลื่น ดวงจันทร์ระหว่างต้นสน และเปลวไฟที่เต้นระบำ 
        การแสดงได้นำผู้เข้าชมและผู้แสดงไปยังดินแดนอันมีมนต์ขลัง และยังมีการเฉลิมฉลองเพื่อระลึกถึงผู้ให้กำเนิดเทศกาลฮาโงโรโมะซึ่งเป็นนักเต้นบัลเล่ชาวฝรั่งเศสชื่อ Hélène Giuglaris อีกด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้