ทะเลสองห้อง เป็นแหล่งน้ำจืดสีเขียว ตั้งอยู่ใน ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นปล่องภูเขาไฟที่มีอายุหลายล้านปีมาแล้ว โดยจะแบ่งออกเป็น ๒ ปล่อง มีขนาดเล็ก ๑ ปล่อง และขนาดใหญ่ ๑ ปล่องอยู่ติดกัน คั่นด้วยสันดอน จึงเรียกว่าทะเลสองห้อง ถึงเรียกว่าทะเลแต่เป็นน้ำจืด มีความน่าสนใจ คือน้ำไม่แห้ง และมีน้ำใสตลอดปี มีความลึกมาก ลึกสุดที่นักสำรวจลงไปสำรวจได้พบเจอถ้ำใต้น้ำเบื้องล่าง และ ณ.ปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถลงไปล่างสุดได้เลย กลายเป็นที่มาของคำว่า "ลึกไม่รู้สิ้นไม่รู้สุด" ที่มาของความลุึกนี้ เกิดจากที่นี่เคยเป็นปากปล่องภูเขาไฟสมัยดึกดำบรรพ์ที่หมดสภาพไปแล้ว ปัจจุบันกลายเป็นโพรงถ้ำลึกที่มีน้ำท่วมขัง ข้างใต้เป็นถ้ำขนาดใหญ่ และที่นี่คาดการณ์กันว่าเป็นแหล่งน้ำที่มีความลึกที่สุดในทวีปเอเชีย
โดยปากบ่อหรือปากถ้ำบนพื้นดินเต็มไปด้วยหินแข็งคล้ายลาวาจากภูเขาไฟ 2 ปล่อง ซึ่งสามารถดำน้ำชมความสวยงาม วิจิตรตระการตาภายในถ้ำ มีน้ำตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งน้ำจะลดจนมองเห็นเป็น 2 ส่วนหรือ 2 ห้องอย่างชัดเจน ถือเป็นถ้ำใต้น้ำที่ท้าทายบรรดานักดำน้ำทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก แต่ไม่มีใครเคยดำน้ำลงไปสำรวจถึงก้นบ่อได้สำเร็จ และเคยมีนักดำน้ำมาจบชีวิตที่นี่มาแล้ว แม้จะเชี่ยวชาญเรื่องดำน้ำก็ยังไม่ปลอดภัย มีเสียงร่ำลือกันว่าอย่าได้ไปจับ หรือไปยุ่งกับทรัพย์สมบัติใต้น้ำแห่งนี้
ตำนานเมืองบาดาลใต้ถ้ำทะเลสองห้อง และพญานาคราช
ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า เรื่องอาถรรพ์เร้นลับทะเลสองห้องนั้นถูกเล่าต่อ ๆ กันมาตั้งแต่โบราณว่า เป็นเมืองบาดาลเก่าและเป็นที่อาศัยของพญานาคราช ที่ชาวบ้านเรียก "ทวดเลสองห้อง" เป็นที่เคารพนับถือกราบไหว้ แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีการกล่าวถึง ใครจะมาเล่นน้ำ ดำน้ำ ก็ลงเล่นตามอำเภอใจจนเกิดเรื่องราวไม่ดีมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเป็นไปตามคำกล่าวที่ว่า ผู้ใดที่คิดจะดำลงไปจนถึงพระราชวังของเจ้าเมืองพญานาค จะถูกจับตัวไปลงโทษหมดโอกาสที่กลับขึ้นมาสู่โลกมนุษย์
เรื่องราวของเมืองบาดาลและพญานาคราชที่ทะเลสองห้องมีการเล่าสืบต่อ ๆ กันมานานแล้ว คนในท้องที่เชื่อกันว่ามีพญานาคอาศัยอยู่ใต้บาดาล คอยเฝ้าสมบัติอยู่
“ก่อนหน้านี้มีการประกอบพิธีทางไสยศาตร์และมีพญานาคราชหรือ “ทวดเลสองห้อง” มาเข้าทรงและบอกว่าในเมืองบาดาลใต้น้ำทะเลสองห้องมีทรัพย์สมบัติมีค่าจำนวนมาก โดยเฉพาะจำพวกเขาสัตว์และงาช้าง
เคยมีร่างทรงชื่อดังในจังหวัดนครศรีธรรมราชรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเคยทำพิธีทางไศยศาสตร์พญานาคราช หรือ “ทวดเลสองห้อง”มาเข้าทรงบอกว่าคนในยุคในปัจจุบันไม่เชื่อเรื่องเมืองบาดาล เรื่องพญานาคราช และกระทำการใด ๆ ในลักษณะลบหลู่ดูหมิ่น ไม่เคารพย่ำเกรง ทั้ง ๆ ที่สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเหมาะสมในการส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยทางพญานาคราชหรือ “ทวดเลสองห้อง” พร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพียงแต่จะต้องทำให้ถูกต้อง
โดยคนทรงเล่าว่า ท่านพญานาคราชหรือทวดเลสองห้องต้องการให้มีการสร้างอนุสรณ์สถานหรือรูปเคารพพยานาคราชไว้ในจุดด้านหน้าทะเลสองห้อง เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวได้สักการะ กราบไหว้บูชา แสดงถึงความเคารพ ย่ำเกรง ก่อนลงไปเล่นน้ำหรือดำน้ำ ทางพญานาคราชหรือ “ทวดเลสองห้อง” จะช่วยเหลือให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่มาท่องเที่ยวมีความสุข ความเจริญ มีโชคลาภและมีความแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
สังเวยชีวิตให้ทะเลสองห้อง
เมื่อหลายปีก่อนมีครูดำน้ำต่างชาติเดินทางมาดำน้ำพิสูจน์ความลึกและเกิดสูญหายไร้ร่องรอยเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ ต่อมาทะเลสองห้องกลายมาเป็นข่าวดังช่วงปลายปี 2562 กรณีครูสอนดำน้ำชาวอังกฤษเสียชีวิต โดยพบศพในสภาพนอนกอดถังออกซิเจน ไม่มีการพบบาดแผลใด ๆ หลังจากเกิดกรณีนี้ทำให้ทะเลสาบลึกแห่งนี้เงียบเหงาไร้ผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวเพราะเกิดความกลัวหวั่นไม่ปลอดภัย จนกระทั่งล่าสุด (3 มีนาคม) เกิดเหตุสังเวยชีวิตอีกครั้งเมื่อนายต่อศักดิ์ ครูสอนดำน้ำชาวไทยลงไปดำน้ำในทะเลสองห้องได้ไม่ถึงชั่วโมงก็เสียชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น