Funny game for your mobile

หินกระปู๋ที่ใหญ่ที่สุดรอบโลก


        ศิวลึงค์เป็นวัตถุเคารพยุคก่อนประวัคิศาสตร์อันเป็นที่รู้จักกันดีก็คือ ศิวลึงค์ ของศาสนาพราหมณ์ อันเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ ในหลายที่นิยมใช้เป็นวัตถุมงคลเพื่อเสริมโชคลาภและเรามักจะเห็นเป็นอันเล็กๆ พกพาง่าย แต่ไม่ใช่แค่ศาสนาพราหมณ์จะถือเป็นวัตถุมงคลเท่านั้น ดินแดนอื่นหรือต่างประเทศต่างเคารพสิ่งที่ถือเป็นธรรมชาตินี้เป็นดังสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป้นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ แม้แต่พิธีเซ่นสังเวยโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์หรือเมืองในโลกเก่าต่างให้ความเคารพเจ้าสัญลักษณ์นี้ ในยุดปัจจุบันอาจจะไม่ขลังมากนัก อย่างไรก็ตามถ้ามีใครไปพบว่ามีหินใหญ่ขนาดนี้ตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม ผู้คนย่อมอยากติดตามไปถ่ายรูปหรือเป็นที่พูดถึงกันปากต่อปาก ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่ามีหินลึงค์หรือกระปู๋ขนาดใหญ่ที่ไหนกันบ้าง


หินยักษ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
Prehistoric stone



        ครั้งหนึ่งหินก้อนนี้เคยใช้งานเพื่อการบูชายันต์ ปัจจุบันหินนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของประเทศสวีเดน มีรูปลักษณ์สัณฐานตั้งตรงตระหง่าน ด้วยความสูง 2 Ft  หรือราว 52 เซนติเมตร อายุของมันคาดว่าอยู่ระหว่าง 1800 ถึง 500 ก่อนคริสศักราช
        หินนี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญ ขณะที่นักโบราณคดีชาวสวีเดน เดินทางมาสำรวจพื้นที่ก่อสร้างก็ได้ไปพบมันเข้าที่ Rollsbo มันเป็นหินที่ก่อสร้างกับหินปูพื้นทางราบ โดยรอบๆค้นพบกระดูกสัตว์ 2-3 ชิ้น คาดว่าสถานที่นั้เคยเป็นสถานที่ชำแหล่ะเนื้อสัตว์สำหรับประกอบพิธี
ในอดีตสัญลักษณ์นี้เคยใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของการเจริญเติบโตและพลกำลังของท่านชาย ส่วนสัญลักษณ์ของฝ่ายหญิงนั้นก็คือหน้าอกและอวัยวะเพศอันเป็นสิ่งแทนการให้กำเนิดและอำนาจ

สัญลักษณ์นี้ตั้งอยู่กลางพื้นที่ของทางเดินที่ปูด้วยหิน




ลึงค์แห่งปอมเปอี 
Stone Phalluses of Pompeii




        เมืองที่ล่มสลายไปพร้อมกับภูเขาไฟระเบิดแห่งนี้ทำให้คนรุ่นใหม่ที่พบล้วนแปลกใจ และทึ่ง นอกจากถนนหนทางที่ทันสมัยคล้ายเมืองในปัจจุบัน อันมีทั้งของหาบเร่ ถนนหนทาง ทางม้าลายและหนึ่งในของตกแต่งผนังอันน่าทึ่งนั้นก็คือหินลึงค์ที่มีให้เห็นได้ทั่วไป

        เจ้ารูปสลักนี้มีให้พบเห็นได้ทั่วไปทั้งบนกำแพง ซ่อนอยู่ตามหลืบถนน
แม้แต่เป็นของแขวนเหนือประตูทางเข้าและเครื่องอบขนมปัง


        สิ่งนี้เจ้าของพื้นที่หรือไกด์ทัวร์ได้อธิบายว่าเป็นหนึ่งในงานโฆษณายุคแรกๆของโลก มันถูกทำเป้นสัญลักษณ์แทนลูกศร และลูกศรนั่นก็เป็นทางนำไปสู่ "ซ่องนางโลม" เนื่องด้วยสถานที่นี้เคยเป็นแหล่งเริงรมณ์ของท่านชายที่มีมาแต่โบราณ แต่เรื่องนี้ก็มีนักวิชาการคัดค้านเช่นกัน มีการตั้งสมมุติฐานว่ามันไม่ใช่สัญลักษณ์ทางโฆษณาประชาสัมพันธ์หรอกนะ แต่มันคือสัญลักษณ์นำโชคลาภมาให้ต่างหาก ทิศทางที่ชี้ไปนี้มันจะปัดป้องสิ่งชั่วร้ายจากดวงตาปิศาจที่มุ่งร้ายได้ หรือเป็นการโน้มน้าวปิศาจไม่ให้ตรงมาทางนี้ จากเหตุที่มันมักแขวนไว้เหนือประตูหรือสถานที่ๆไม่ใช่สถานค้ากาม



                                ทุ่งกระเจี๊ยวสวนไตรเทพ



        งานครีเอชันของบ้านเราไม่เคยด้อยกว่าใครถ้าเป็นอะไรที่ใหญ่ที่สุดในโลก เราทำมาหมดแล้ว แม้แต่หินจู๋ยักษ์แห่งสวนไตรเทพ สำหรับ "สวนไตรเทพ" เป็นสวนแห่งจินตนาการ ตั้งชื่อตามนายไตรเทพ สหะขันธ์ เจ้าของสวนซึ่งมีอาชีพรับสร้างแหล่งท่องเที่ยวในหลายๆแห่งก็สร้างคล้ายกันเป็นพวกดอกไม้ ซุ้มรังนก เลยอยากสร้างอะไรที่แปลกใหม่เป็นสากล

            ภายในสวนไตรเทพ แบ่งออกเป็นหลายโซนที่สร้างจากจินตนาการของเจ้าของสถานที่ ซึ่งมีที่มาจากเทพเจ้า 3 องค์ ที่เป็นผู้เนรมิตสรรพสัตว์ขึ้นมา และสร้างเป็นเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละโซน อาทิ โซนผู้พิทักษ์ โซนมอนสเตอร์ โซนค้อนเทพเจ้า โซนเบาบัฟฟี่



        ส่วนโซนกระเจี๊ยวลาโฮเน่ ถือเป็นไฮไลต์ที่ใครๆ ต่างก็ฮือฮาในขณะนี้ โดยระบุว่า ลาโฮเน่เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่เทพเจ้าที่สร้างขึ้นมา มีความผิดเพราะปล้นพลังชีวิตของคนอื่นและเที่ยวกระทำชำเราไปทั่ว เทพเจ้าจึงเสกให้อวัยวะเพศของลาโฮเน่ตั้งประจานอยู่เต็มลานมากมาย พร้อมยังมีความเชื่อว่า หากใครกอดกระเจี๊ยวลาโฮเน่ขนาดเท่าใด ก็จะได้คู่ครองขนาดนั้น ทำเอาสาวๆ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมต่างสรรหาท่าโพสต์ำขำๆ ถ่ายรูปแชร์กันไปอย่างสนุกสนาน








        นักท่องเที่ยวสามารถมาเยี่ยมชมสวนไตรเทพได้ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. โดยสวนมีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ อยู่ติดลำน้ำพอง ทางไปเขื่อนอุบลรัตน์


                            ฮารูบัง หินลาวาแห่งเกาะเชจู



        ใครไปเที่ยวเกาะเชจูคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับรูปปั้นนี้เป็นอย่างดี อันเกาะเชจูนี้
เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ได้รับจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ “เกาะภูเขาไฟเชจูและอุโมงค์ลาวา” ใน ปี พ.ศ. 2550


ที่เกาะเชจูนี้เราจะได้เห็น “ทอลฮารุบัง” หรือ หินปู่ เป็นรูปปั้นหินลาวาแกะสลักเป็นชายแก่ใจดี  เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเกาะเชจูเลยก็ว่าได้ นิยมประดับไว้ที่หน้าบ้าน ตามทางเดิน และที่ต่าง ๆ อีกมากมาย เดิมทีหินนี้ไม่ได้มีรูปลักษณ์หรือมีหน้าคนแต่อย่างใด เป็นหินโล้นๆตั้งเด่นอยู่โดยรอบ เนื่องจากทางการคงกลัวว่าคนที่ผ่านไปมาจะคิดลึกจึงได้ทำหน้าคนขึ้นมาใหม่ในภายหลัง แต่ถึงจะทำหน้าคนแล้วก็ยังอดคิดไม่ได้อยู่ดี ดูดูไปแล้วเหมือนมีมือของลุงโอบกระปู๋ไว้ด้วยใบหน้ามีรอยยิ้ม  แต่อย่าได้ต่อว่าปู่นะ เพราะปู่ฮารูบังเป็นหินเก่าแก่ ชาวบ้านเชื่อว่าฮารูบังคอยดูแลคนบนเกาะ เป็นผู้ดูแลรักษาสถานที่นี้มาแต่โบราณ


บริเวณเกาะนี้ยังมีจุดถ่ายรูปที่สวยงาม และเช่นเคยปู่ฮารูบัง 2 รูปนี้ปกปักรักษาพื้นที่นี้ให้คงความสวยงาม

        นอกจากนี้ยังมีผู้คนเดินทางมาขอพรในเรื่องต่าง ๆ โดยมีความเชื่อว่า

  • ลูบ “ท้อง” จะทำให้รวย
  • ลูบ “หมวกหรือหัว” จะทำให้มีคนรักคนหลง
  • อยากมีลูกสาว ให้ลูบ “หู”
  • อยากมีลูกชาย ให้ลูบ “จมูก”



                            หินตาหินยาย จ.สุราษฎร์ธานี




        หินตาหินยาย เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของหินแกรนิต ไม่ได้เกิดขึ้นจากฝีมือคนแต่อย่างใด จึงไม่ใช่สิ่งบูชาหากเป็นจุดท่องเที่ยว ถ่ายรูป อันขึ้นชื่อของหาดละไม เกาะสมุย หินตาแสดงถึงผู้ชาย หินยายแสดงถึงผู้หญิง โดยหินทั้งสองเกิดขึ้นในที่แห่งเดียวกันจนกลายเป็นเรื่องน่าทึ่ง
            โดยหินนี้ เกิดจากการกัดเซาะโดยน้ำทะเลและความร้อนจนก่อเกิดเป็นโขดหินรูปร่างประหลาด และชาวบ้านพากันตั้งชื่อให้ว่า หินตาหินยาย ทั้งนี้ ตามนิทานท้องถิ่นเกาะสมุย เล่าต่อ ๆ กันมาว่า นานมาแล้วมีตายาย คู่หนึ่ง ชื่อตาเครงและยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางโดยเรือใบเพื่อจะไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้กับลูกชายชื่อคง โดยมีนายท้ายเรือ คือนายปราบเพื่อนของลูกชาย ครั้งเรือแล่นมาถึงบริเวณแหลมละไม เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม สินสอดทองหมั้นที่เตรียมมาจมน้ำหายไปจนสิ้น ส่วนญาติสนิทมิตรสหายที่เดินทางมาร่วมกัน จมน้ำเสียชีวิตกลายเป็นเกาะเล็กเกาะน้อย รายรอบเกาะ สมุย หลายๆคนถูกน้ำพัดไปกลายเป็นหมู่เกาะอ่างทอง นายคงถูกน้ำซัดไปทางหาดเชิงมนเสียชีวิตกลายเป็นเกาะกง ด้านนายปราบนั้นเกาะเรือสำเภาของตัวเองลอยไปทางอ่าวบ้านดอน จนก่อนจะเข้าอ่าวบ้านดอนเรือสำเภาจมลงจนกลายเกาะนกเภา ส่วนนายปราบนั้นเสียชีวิตกลายเป็นเกาะปราบ อยู่บริเวณอ่าวบ้านดอนนั้นเอง คงเหลือรอดชีวิตแค่ตาเครงและยายเรียม ถูกน้ำทะเลพัดเข้าหาดละไม ทั้งตาและยายเสียใจมาก และกลัวว่าตาม่องล่ายจะคิดว่าเป็นคนไม่รักษาคำพูด จึงพากันกลั้นใจกระโดดน้ำตาย กลายเป็นหินตาหินยายทุกวันนี้ หินตา เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของหินแกรนิต ที่เกิดจากการกัดเซาะโดยน้ำทะเล สายลม แสงแดด จนเกิดเป็นโขดหินรูปร่างประหลาด ลักษณะคล้ายอวัยวะเพศของชาย หินยาย เป็นโพรงหินชายฝั่ง โพรงที่เกิดจากการผุกร่อนของหน้าผาชายฝั่งทะเล เนื่องจากถูกคลื่นกัดเซาะ โดยปกติโพรงนี้จะอยู่ในระดับแนวน้ำทะเลหรือเหนือน้ำทะเลเล็กน้อย








หินยักษ์ Nui Po Shan




    แหล่งปีนเขาและถ่ายรูปที่สวยงามของเกาะฮ่องกง เกาะที่มีตึกสูงท่ามกลางธรรมชาติ ไม่ไกลจากเมืองเดินลัดเลาะไปจากหมู่บ้านเดินไปตามยอดเขาจะพบจุดท่องเที่ยวถ่ายรูปที่สามารถชมวิวจากที่สูงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ค่อนข้างโลดโผนเล็กน้อย มีทางเดินเท้าเชื่อมต่อกับจุดชมวิวเป็นระยะ บางมุมเห็นตึกสูงอยู่ไม่ไกล

        โดยหินนี้เป็นจุดถ่ายรูปกลางหุบเขานี้ ถ้ามองจากมุมสูงค่อนข้างโดดเด่น สำหรับสายเที่ยวที่ไม่กลัวความสูงก็นับว่าเป็นสถานที่ปีนเขาและท่องเที่ยวถ่ายรูปที่สวยงามที่หนึ่ง



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้